วันศุกร์ที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙

การเลี้ยงสุนัข


มีวันหนึ่งที่ดิฉันไปเดินเล่นที่ตลาดพูนทรัพย์ว่าจะไปดู สติกเกอร์ติดรถยนต์ ในขณะที่กำดังเดินดูของที่จะซื้ออยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น ร้านขายสุนัข ซึ่งตั้งอยู่หน้าห้องนน้ำในมุมอับๆ ซึ่งไม่น่าตั้งขายของเลย เมื่อครั้งยังเห็นอยู่ไกลๆ นั้นในใจก็ยังมิได้สนใจแต่อย่างใด แต่พอยิ่งเดินมาไกล้กับกรงสุนัขที่ประกอบไปด้วยสุนัขตัวเล็กๆ สีขาวขนปุยๆ หน้าตาหน้ารักเป็นอย่างมาก สี่ตัวด้วยกัน เมื่อเห็นชัดๆก็พลันนึกอยากได้ขึ้นมาในทันที แต่ก็ยังลังเลอยู่เพราะไม่รู้ว่าแฟนจะคิดอย่างไร ครั้นจะเอ่ยปากพูดออกไป ใจก็กลัวจะโดนตำหนิ เพราะพึ่งขอเงินซื้อของอย่างอื่นไปเยอะแล้ว ก็เลยตัดใจ จึงบอกแฟนว่าขอเข้าห้องน้ำ เมื่อดิฉันกลับออกมาจากห้องน้ำ สิ่งที่ดิฉันได้เห็นคือ แฟนกำลังอุ้มลูกหมาตัวเล็ก ๆ หน้าตาหน้ารักเป็นอย่างมาก อยู่หนึ่งตัว สอบถามแฟนได้ความว่า เจ้าของร้านเขาเปิดกรงสุนัขให้ ลูกค้าคนอื่น
ดู แต่เจ้าตัวเล็กตัวนี้ก็ได้วิ่ง หนีออกมาโดยวิ่งตรงเข้ามาหาแฟนดิฉันซึ่งยืนดูอยู่ แล้วแฟนดิฉันก็ถามดิฉันว่า"ยากได้ไหม" ดิฉันตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า อยากได้ค่ะ แล้วแฟนดิฉันก็ ซื้อเจ้าตัวเล็กให้ดิฉัน วันนั้นดิฉันดีใจมาก เมื่อกลับมาก็พากันไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่คิดว่าจะต้องใช้เลี้ยงสุนัข วันแรกเจ้าตัวเล็กยังดูหงอยๆ อยู่มันนอนนิ่งๆ ไม่ค่อยลุกเดินไปไหน มาไหน ดิฉันก็เห่อมันมากอุ้มมันพยายามเล่นกับมัน แต่มันไม่ค่อยเล่น ดิฉันคิดว่ามันคงเพลีย เพราะตากแดดมาทั้งวัน ดิฉันจึงพาเจ้าตัวเล็กเข้านอน มันนอนนิ่งไม่มีเสียงอะไรมาจากมันอีก แต่พอถึงตอนเช้าดิฉันต้องโทรไปปลุกแฟนดิฉันตั้งแต่ หกโมงเช้า เพราะอะไรนะหรือค่ะ เจ้าตัวเล็กของดิฉันมันร้องตลอดไม่ยอมหยุด จนดิฉันกลัวว่าข้างห้องของดิฉันจะได้ยินเข้า แฟนดิฉันจึงรีบมารับเพื่อที่จะออกไปข้างนอก เราไม่รู้ว่าจะไปไหนกันดี แต่เมื่อเราขับผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เราจึงตัดสินใจพาเจ้าตัวเล็กไปเดินเล่น ครั้งแรกก็คิดว่ามันคงจะไม่ค่อยเดินเหมือนตอนอยู่ห้อง แต่ที่ไหนได้เมื่อขาของมันเตะพื้นครบสี่ขามันก็เริ่มออกวิ่ง โดยเป้าหมายของมันคือคนทึ่มาเดินอยู่ไกล้ มันวิ่งไปหาคนโน้นทีคนนี้ที น่าขันเป็นอย่างมาก วันนั้นเราอยู่ที่สวนสาธารณะจนสาย และเราก็ช่วยกันตั้งชื่อให้กับมันด้วย โดยแฟนของดิฉันบอกว่าเราไปเจอมันที่ตลาดพูนรัพย์ ดังนั้น เราน่าจะให้มันชื่อ พูนทรัพย์ และแล้วเจ้าพูนทรัพย์ก็เป็นสมาชิกใหม่ของห้องดิฉันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็สองปีเข้าไปแล้ว ที่ดิฉันใช้ชีวิตร่วมกับมันในห้อง บางครั้งก็โมโหมาก เพราะมันกัดข้าวของราคาแพงของดิฉันจนเสียหายไปหลายอย่าง พอจะตีก็เห็นมันทำหน้าน่าสงสารวิ่งไปซุกตามซอกต่างๆในห้อง ก็ได้คิดสงสารจนไม่ได้ตีมันซักครั้ง อยู่กับมันแล้วอารมณ์ดีค่ะ เพราะชอบเดินมาอ้อน แต่บางครั้งก็ไม่รู้ว่ามันคิดอะไร เพราะอยู่ดีๆมันก็วิ่งมากัดที่ส้นเท้า แล้วก็รีบวิ่งหนีไป ดิฉันก็งงมันเหมือนกัน ด้วยความที่ดิฉันรักมันมากทำให้ดิฉันรู้ว่า ถ้ามันทำแบบนี้มันต้องการอะไรหรือจะทำอะไร คนที่ไม่เคยเลี้ยงสุนัขอาจไม่เข้าใจ แต่ดิฉันยืนยันว่าจริงค่ะ ทุกวันนี้ได้แต่คิดว่าหากวันนึงไม่มีเค้าดิฉันคงต้องเสียใจมากๆแน่ๆ ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้วันนั้นมาถึงเลยค่ะ

1 ความคิดเห็น:

cool writer กล่าวว่า...

ขยันเขียนดี...คราวนี้ ลองเขียนแบบมีกฎข้อบังคับบ้าง...เขียน ย่อหน้าสั้นๆ 5 - 10 ประโยค มาหนึ่งเรื่อง เอาเรื่องหมานี่ก็ได้..(ย่อให้สั้น..เขียนไม่แทนตัวเอง)

และ เขียน ความเรียง มา 1 เรื่อง ประกอบด้วย ย่อหน้า 5 ย่อหน้า

ย่อหน้า นำเรื่อง ย่อหน้าเชื่อม ย่อหน้าตัวเรื่อง ย่อหน้าจุดสุดยอด และย่อหน้าจบ

อ. สุรชัย