วันอังคารที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

งานหมั้นครับ

กินเลี้ยง

ขอบคุณทุกคนนะครับที่มาร่วมงาน อุตส่ามาแต่เช้าเลย
ไว้งานแต่ง จะตัดต้นไม้ออกจะได้เห็นโรงงานกันนะ
ฮ่าฮ่า
จากพี่ยุทธ






วันพฤหัสบดีที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐

เอารูปมาฝากค่ะ




อันนี้เจ้าพูลทรัพย์ค่ะ

อีกรูปเป็นรูปวัดหลวงพ่อโสธรค่ะ

วันพุธที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐

บทโรแมนติก

ณ  ร้านอาหารแห่งหนึ่ง    มีบรรยากาศที่หรูหราโรแมนติก  สไตล์อิตาเลี่ยนมีคูรักมาดินเนอร์ใต้แสงเทียน


ฝ่ายชายได้เตรียมดอกไม้ช่อใหญ่มาให้ฝ่ายหญิง       วันนี้ฝ่ายหญิงแต่งตัวสวยมาก     ฝ่ายชายก็แต่งตัวหล่อไม่แพ้กัน


ฝ่ายชายเลื่อนเก้าอี้ให้ฝ่ายหญิงนั่งและเค้าได้สั่งอาหารที่ทางร้านแนะนำเ้ค้านั่งทานอาหารและนั่งมองกันอย่างหวานซึ้ง


                                   ฝ่ายชายพูดว่า      ทานของหวานดูนะครับที่นี่อร่อยมาก


                                   ฝ่ายหญิงยิ้ม          แล้วพยักหน้าตอบว่าคะ


แล้วฝ่ายชายก็ยกมือเรียกบริกรเพื่อที่จะสั่งขนมหวานเพียงครู่เดียว     บริกรก็นำขนมมาเสริฟที่โต๊ะ


ฝ่ายชายหันมาขยิบตาให้บริกร      บริกรพยักหน้าก้มลงแล้วยิ้ม


ฝ่ายชายยกมือเชิญให้ฝ่ายหญิงทาน


ฝ่ายหญิงตักขนม      พอขนมถึงปากฝ่ายหญิงเคี้ยวไปสักพักแล้วร้องโอ้ยเพราะรู้สึกเจ็บฟันเหมือนเคี้ยวอะไรแข็งๆ


จึงหยิบออกมาดู         ฝ่ายหญิงอึ้งไปชั่วขณะพร้อมกับสายตาที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากน้ำ้ตาของเธอเริ่มคลอเมื่อสิ่งที่เธอเห็นคือแหวนเพชรที่สวยงามเป็นประกาย


ฝ่ายชายเดินมาข้างเก้าอี้และนั่งคุกเข่าใกล้ๆเธอ      เค้าจับมือของเธอมาสวมแหวนให้แล้วพูดกับเธอว่า


                                   ผมรักคุณ      แต่งงานกับผมนะครับคนดี


ฝ่ายหญิงน้ำตาไหล แล้วตอบว่า "ค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ"


แล้วทั้งคู่ก็สวมกอดกันอย่างหวานซึ้ง คนในร้านต่างลุกขึ้นประมือ แสดงความยินดีกับทั้งคู่


แล้วทั้งคู่หันกลับมามอง และยิ้มให้กับทุกคน และก็กอดกันอีกครั้ง

วันพุธที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๐

ส่งงาน "การรายงานข่าวค่ะ"

อโรฮ่า EAU ไฮโซไซตี้


         ปาร์ตี้สุดหรู ณ มหาวิทยาลัย อิสเทิร์เอเชีย มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย โดยในงานนั้นมีผู้เข้าร่วมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร หรือนักศึกษาและผู้ที่ให้ความสนใจ ต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานอย่างคับคลั่ง งานปาร์ตี้อันยิ่งใหญ่และอลังการครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อตอบแทนบุคคลากรและนักศึกษา ในงานมีกิจกรรมมากมาย  โดยงานเริ่มตั้งแต่สิบแปดนาฬิกาถึง ยี่สิบเอ็ดนาฬิกา แต่ในช่วงเช้านั้นทางมหาวิทยาลัยได้จัดให้มีการ ทำบุญตักบาตร และไหว้ศาลพระพรหม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นที่เคารพสักการะของ ชาวอิสเทิร์เอเชียทุกคน ทั้งนี้งานปาตี้สุดหรูนี้ได้รับเกีรติจากวงดนตรีชื่อดังมาขับกล่อมให้งานมีสีสัน และอาหารจากฝีมือพ่อครัวในภัตตาคารมีชื่อ ตามรายงานข่าวนั้น ผู้ร่วมงานต่างมีความสุขและสนุกสนานกับงานครั้งนี้มาก โดยไฮไลต์ของงานนั้น อยู่ที่การจับฉลากมอบของรางวัลแก่ผู้มาร่วมงาน ให้ผู้เข้าร่วมงานต่างหอบของรางวัลกลับไปเป็นที่ระลึกกันอย่างมากมาย ทั้งนี้แม้จะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก แต่งานก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นจนจบงาน ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้คณะกรรมการจัดงานดังกล่าวมา ณ ที่นี้ด้วย


น.ส. อารีรัตน์ บุตดีวงษ์  เรียบเรียง/รายงาน


 

ส่งงานบทละคร

   ณ ห้องทำงานในบ้านของสิงโต ผู้ปกครองผืนป่าอันกว้างใหญ่ ซึ่งมีประชากรสัตว์ป่า มากกว่า 60 ล้านตัว ระยะนี้เจ้าสิงโตดูเคร่งเครียด สาเหตุก็เนื่องมาจากความไม่สงบเรียบร้อยของผืนป่าในช่วงนี้ เกิดเหตุการณ์ต่างๆซึ่งสร้างความวุ่นวายให้ผืนป่ามากมายเหลือเกิน เจ้าสิงโตครุ่นคิดวิธีที่จะแก้ปัญหา จนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันนัก แล้วเจ้าสิงโตก็ตัดสินใจเปิดคอมพิวเตอร์ในห้องทำงาน เจ้าสิงโตตัดสินใจ ออนเอ็มเอสเอ็นทันที และก็เป็นอย่างที่มันคิด เจ้าลิงแสม ออนอยู่ก่อนแล้ว เจ้าลิงแสมตัวนี้ในอดีตก็คือผู้ปกครองผืนป่าก่อนที่เจ้าสิงโตจะเข้ามาควบคุมผืนป่าแทน
เจ้าสิงโตก็พิมพ์ทักทายเจ้าลิงแสมในทันที


                     "สวัสดีสบายดีไหมเจ้าลิง"


                     "สบายดีท่านสิงโตแต่คิดถึงบ้านจัง"


                     "ว่าแต่ท่านสิงโตมีอะไรหรือเปล่าวันนี้วันดีคืนดีไม่เคยติดต่อข้านี่"


                     "อืม ข้่ามีเรื่องจะขอร้องเจ้า"


                     "อะไรกันท่าน สัตว์หมดอำนาจอย่างข้าเนี่ยนะที่ท่านจะขอร้อง ฮ่าๆ ท่านล้อข้าเล่นหรือ"


                     "เจ้าลิง ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่เบื้องหลังเหตุึการณ์ทั้งหมดในขณะนี้นะ"


                     "ทำไมท่านจึงคิดเช่นนั้นเล่า ท่านสิงโต"


                     "เอาเถอะ ข้าขอร้องได้ไหมขอให้เจ้าหยุดเพียงเท่านี้ได้ไหม"


                     "ข้าขอพูดจากใจเลยนะท่าน เหตุการณ์ทั้งหมดข้าไม่ได้ทำ"


                     "ข้าไม่เชื่อหรอก"


                     "ถ้าท่านไ่ม่เชื่ีอข้าก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร"


            พอสิ้นข้อความเจ้าลิงแสมก็ออฟไลน์ทันที  เจ้าสิงโตหัวเสียมากมันคำรามดังสนั่นลั่นห้อง จนทำให้สุนัขรับใช้ที่อยู่ข้างนอกวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น


                     "ออกไปให้พ้นหน้า ข้าเดี๋ยวนี้" เจ้าสิงโต ตวาดเสียงดังกังวาล จนสุนัขรับใช้ทั้งหลายวิ่งหางจุกก้นออกไป


                     สิ้นเสียงของสุนัขรับใช้ พลันเสียง ของเอ็มเอสเอ็นก็ดังขึ้น เจ้าสิงโตเดินมาดูที่หน้าจอ เจ้าลิงแสมนั่นเอง


                     "ท่านสิงโต ข้ามีสิ่งหนึ่งอยากเตือนท่าน"


                     "อะไรรึ เจ้าลิง เจ้าจะมาไม้ไหนอีก"


                     "ข้าจะย้ำสิ่งที่ข้าเคยบอกท่าน โปรดระวัีงพวกสุนัขจิ้งจอกที่ข้าเคยปราบตอนที่ข้าปกครองให้ดี"


                     "ฮ่า ๆ ข้าไ่ม่ใช่เจ้า แค่กลุ่มสุนัขจิ้งจอก ข้าไม่กลัวพวกมันหรอก"


                     "ตามใจท่านแล้วกัน ข้าเตือนท่านแล้ว"


             เจ้าสิงโตกำลังเอื้อมมือมาที่คีย์บอร์ด เพื่อจะพิมพ์ข้อความต่อไป พลันแสงสว่างก็พุ่งเข้ามาจนแสบตาแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับลงจากจิตสำนึกของเจ้าสิงโต


             เสียงหวอของรถดับเพลิง และ เสียงของสรรพสัตว์ดังเซ็งแซ่ บัดนี้บ้านอันสวยงามกลางป่า เหลือแต่ซากปรักหักพัง แม้แต่โบ้กี้รถไฟที่อยู่ในสวนกลางบ้านก็แหลกไม่มีชิ้นดี ทุกชีวิตในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร ดับสูญไปลงในฉับพลัน ....


"อย่าไว้ใจสิ่งชัี่วร้ายแม้มันจะเล็กน้อยสำหรับเราก็ตาม"


            The End


             

ความเรียง

                แม้โลกเรากว้างใหญ่ มีผู้คนมากมาย อยู่รอบตัวเรา แต่ใครบ้างที่คุณคิดถึงเวลาที่คนมีปัญหา ที่คุณไม่อยากบอกคนที่คุณรัก ด้วยเหตุผลต่างๆเช่น กลัว ไม่อยากให้เสียใจ ทุกข์ใจ หรือกังวลใจ ใครกันที่คุณอยากระบายให้เขาฟัง ใครกันที่ยามสุขใจเราไม่ค่อยนึกถึง เมื่อไหร่ทุกข์ใจหรือมีเรื่องไม่สบายใจชื่อของเขาหรือเธอเหล่านั้นก็จะผุดขึ้นมากลางใจของพวกคุณ


            ใช่แล้วค่ะฉันอยากจะพูดถึง เพื่อน”  เพื่อนมีกี่ประเภทเหรอค่ะ ไม่รู้ค่ะ ไม่ได้กวนนะค่ะ ไม่ทราบจริงๆ แต่สำหรับดิฉันแล้วคนที่รู้จักชื่อกัน เจอหน้าทักทายกัน รู้ว่าบ้านอยู่ไหน รู้ว่ามีแฟนชื่ออะไร แค่นี้ดิฉันไม่นับว่าเป็นเพื่อนหรอกค่ะ นี่มันแค่คนรู้จัก ดิฉันคิดว่าเพื่อนควรมีอะไรมากกว่านั้น


             คุณคบเพื่อนกันไว้ทำไมเหรอค่ะ มีไว้ให้ตัวเองดูเหนือกว่าเพื่อน มีไว้คุยด้วยเวลาไม่มีไรทำ หรือมีไว้เพื่อให้คนอื่นรู้ว่า ฉันก็มีคนคบนะ ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าคุณคบเพื่อนไว้ทำไมกัน แต่สำหรับดิฉันเพื่อนคือคนที่คอยช่วยเหลือกันยามเมื่อเพื่อนเดือดเนื้อร้อนใจ พูดคุยกันยามเมื่อเพื่อนมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับคนอื่นได้(หมายถึงพ่อแม่
หรือ แฟน) แบ่งปันสิ่งดีให้แก่กัน เพื่อนไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี คนดีอาจเป็นเพื่อนที่ไม่ดี และคนไม่ดี อาจเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับคุณได้ คนคบกันไม่จำเป็นต้องทำอะไรก็ต้องทำตามกันนี่ค่ะ จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราตัดสินใจค่ะ ดิฉันเชื่ออย่างนั้นค่ะ แต่ถ้าหากคุณจะเรียกร้องความจริงใจจากใครแล้ว คุณควรจะให้ความจริงใจกับเขาก่อนนะค่ะ


            แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ค่ะ ชีวิตมันไม่ใช่บัญญัติไตรยางค์ นะค่ะ ถ้าให้ความจริงใจไปแล้ว ใช่ว่าเราจะได้รับความจริงใจกับมาเสมอไป คงต้องใช้สติ คิดวิเคราะห์กันเอาเองว่า ใครเหมาะสมที่จะเป็นเพื่อน ใครเหมาะสมที่จะเป็นแค่คนรู้จักบ้าง อย่าลืมนะค่ะ เมื่อสติมีปัญญาจะเกิดค่ะ


             สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไป อยากจะฝากข้อความที่คิดว่าคงจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วแต่มันได้ใจดีค่ะ


"มีหมาเป็นเพื่อนดีกว่ามีเพื่อนหมาๆ"


 

ส่งงานการใช้คำที่กำหนดให้แต่งประโยค

          ฉันชื่อแป้งเป็นเด็กสาวต่างจังหวัดเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ด้วยความที่เป็นคนบ้านนอกคอกนา ทำให้ฉันมักจะโดนดูถูกจากเพื่อนๆเสมอ ว่าเป็นคนบ้านนอก ไม่รู้จักของBrandname จริงๆแล้วฉันก็เคยสงสัยเหมือนกัน ว่าการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของมาอวดกันของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย มันน่าภูมิใจตรงไหน ฉันเคยเห็นบางคนอยู่บ้านเก่าๆโกโรโกโส แต่พอจะออกมาข้างนอกก็แต่งหน้าทาปากหิ้วกระเป๋าๆแพงๆ แล้วก็มาคอยดูถูกคนอย่างเธอ แต่แป้งก็ยังมีเพื่อนคนนึง ชื่อคำหล้า
แค่ชื่อก็คงไม่ต้องบอกมั้งค่ะว่าเป็นคนต่างจังหวัด คำหล้า เป็นคนโพงพางไม่ค่อยมีมารยาทพูดอะไรพูดตรงๆไม่มามัวแต่สำบัดสำนวนให้เสียเวลา คำหล้าเป็นนักเรียนทุนเหมือนฉัน ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ดีกว่ากันนัก เธอเล่าว่าพ่อเธอเป็นคนสำมะเลเทเมา วันๆ ไม่ค่อยทำอะไร มีแต่แม่เธอที่ทำงานหาเงินส่งเธอและน้องๆเรียน ด้วยความยากจน ครอบครัวเธอจึงต้องระหกระเหิน มาหากินอยู่ในเมืองหลวง คำหล้าเคยพูดกับฉันว่าคำหล้าไม่ค่อยอยากกลับบ้าน ที่บ้านน่าเบื่อ มีน้องเล็กๆที่ร้องกระจองอแง เสียงดัง แม่ของเธอก็บ่นกระปอดกระแปดทั้งวัน
บ้านมีแต่ความวุ่นวาย ทำให้เธอไม่อยากกลับ วันนี้คำหล้าพยายามชวนฉันไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก แต่ฉันไม่กล้าไปกลัวจะทำอะไรไม่ถูกจนทำให้เพื่อนๆไฮโซของเธอดูถูกอีก แต่ในที่สุดคำหล้าก็คะยั้นคะยอจนฉันใจอ่อนจนได้ วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันจะเถลไถลไม่กลับที่พักเป็นครั้งแรก


เมื่อถึงเวลานัดฉันไปหาคำหล้าที่โรงอาหาร เมื่อไปถึงเห็นคำหล้านั่งแทะน่องไก่ คำหล้าเป็นคนที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเหมือนผู้หญิงทั่วไปเธอชอบทานตะกรุมตะกราม ซึ่งฉันก็เคยเตือนไปหลายครั้ง แต่ก็เหมือนเดิม แต่ดูไปดูมาก็ตลกดีเหมือนกัน เมื่อคำหล้าเห็นฉันเธอก็รีบเก็บของ ฉันส่งกระดาษให้เธอเช็คปาก คำหล้ารีบรับไปเธอจะทำทั้งสามอย่างพร้อมๆกัน ทำให้เธอละล้าละลัง ทำอะไรไม่ถูก ฉันเลยคว้ากระดาษมาบอกให้คำหล้าทานให้หมด แล้วค่อยเช็ดปาก แล้วก็เก็บของ จะได้ไปขึ้นรถกัน เธอก็ทำตาม  


เมื่อเราขึ้นโดยสารรถแล้วดูคำหล้านั่งกระสับกระส่าย ดูเธอกระเหี้ยนกระหือรือที่จะไปเที่ยวเสียนี่กระไร ฉันเลยถามว่าเธอเคยไปเที่ยวมาแล้วหรือยัง คำหล้ายิ้มอายๆ ทำท่ากระมิดกระเมี้ยน แล้วก็ส่ายหัว เธอบอกไม่กล้าไป ชวนใครก็ไม่มีใครยอมไปกับเธอ พึ่งจะมีฉันนี้แหละที่ยอมมาด้วย สรุปว่าเราไม่เคยไปด้วยกันทั้งคู่ ตายล่ะจะเป็นยังไงล่ะทีนี้


 


เมื่อไปถึงเราสองคนเดินดูโน่นดูนี้ไปเรื่อย เรียกดูว่าเดินตุหรัดตุเหร่ เร่ร่อนกันไปไม่มีจุดหมาย เอเดี๋ยวก่อน เมื่อกี้เราเดินมาจากทางไหนนะพยายามนึกทางที่เดินมา จึงถามคำหล้า ว่าจำได้ไหมเมื่อกี้เราเดินมาจากทางไหน คำหล้าทำหน้าเลิกลั่ก ส่ายหัวไปมาอย่างกับพัดลมตั้งโต๊ะ เอาไงทีนี้ พูดขึ้นมาลอยๆกับตัวเอง คำหล้าออกความคิดเห็นว่าถามเจ้าหน้าที่ดีไหม ฉันเห็นด้วย จึงเดินไปหาพนักงาน เพื่อจะถามทาง ด้วยความอายทำให้เราสองพูดตะกุกตะกัก กว่าจะรู้เรื่องก็อายแทบแย่ในระหว่างที่กำลังเดินกลับ ฉันก็สังเกตุเห็นผู้หญิงคนนึงกำลังทะเลาะกับผู้ชายคนนึง
ฉันคิดว่าคนเป็นแฟนของผู้หญิงคนนั้น ดูลักษณะผู้ชายคนนั้นผอมสูง ดูสะโอดสะอง แต่ตอนนี้คงจะหัวเสียน่าดูเพราะผู้หญิงกระเง้ากระงอดใส่ ผู้ชายพยายามปลอบ ก็สะบัดสะบิ้งเล่นตัวตลอด จนผู้ชายทนไม่ไหวก็เลยเดินหนีไปเลย ผู้หญิงกรี๊ดใหญ่เลย ผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พากันหันมามองกันใหญ่ แล้วคุณเธอก็วิ่งตามไปอย่างเร็วจนไปชนกับพนักงานที่หอบของพะรุงพะรังมาตกเต็มพื้น แต่เธอก็ไม่สนใจวิ่งออกไปเลย พวกเราเลยกุลีกุจอช่วยพนักงานคนนั้นเก็บของที่พื้นกันค่ะ เสร็จแล้วก็กลับห้องพักอย่างปลอดภัย เหนื่อยน่าดูแต่ก็สนุกดีค่ะ
อ้อเราซื้อของมาทำกับข้างทานกันสองคนที่ห้องพักด้วยค่ะ โดยที่คำหล้าอาสาทำยำหมูยอให้กิน แต่ดูลักษณะการทำแล้วไม่เหมือนปรุงอาการเลย เหมือนเอาเครื่องปรุงแต่ล่ะอย่างมาปู้ยี้ปู้ยำใส่รวมๆกันมากกว่าค่ะ